HoYoverse ผู้สร้างเกมดังอย่าง Genshin Impact, Honkai: Star Rail และ Zenless Zone Zero กำลังมองหาหนทางใหม่ในการเติบโต หลังพบว่ายอดขายเริ่มชะลอตัว และเกมใหม่เริ่มแย่งฐานผู้เล่นกันเอง ล่าสุด ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Cai Haoyu ได้ก้าวออกจากบทบาทบริหารหลักของ HoYoverse ไปเปิดบริษัท AI ในนาม Anuttacon ที่แคลิฟอร์เนีย โดยมีเป้าหมายสร้างสื่ออินเทอร์แอคทีฟรูปแบบใหม่ที่ไม่จำกัดแค่เกมอีกต่อไป
วงการเกมจากประเทศจีนเคยถูกมองข้ามโดยผู้เล่นมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งการมาถึงของ Genshin Impact เมื่อ 5 ปีก่อน ที่พลิกโฉมทุกอย่าง ด้วยตัวละครอนิเมะน่ารักกว่า 20 ตัวละคร ต่อสู้กับมอนสเตอร์และออกผจญภัยในโลกแฟนตาซี เกมนี้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล สร้างรายได้ราว 6.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 229,000 ล้านบาท) บนมือถือเพียงอย่างเดียว (ข้อมูลจาก Sensor Tower)
หลังจากนั้น HoYoverse (ชื่อแบรนด์ต่างประเทศของบริษัทจีน miHoYo) ก็ปล่อยเกมดังอีกหลายเกมอย่าง Honkai: Star Rail และ Zenless Zone Zero ในปี 2024 รวมรายได้ทั้งสามเกมเกิน 8.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 310,000 ล้านบาท) บนมือถือ
แต่ความท้าทายก็เริ่มปรากฏเมื่อเกมใหม่ของ HoYoverse กลับแย่งฐานผู้เล่นจากเกมเก่า ส่งผลให้รายได้จากเกมก่อนหน้าลดลงเกือบครึ่งในไตรมาสต่อ ๆ มา รายได้รวมของบริษัทลดลง 23% เหลือ 4.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 174,000 ล้านบาท) ในปี 2024 (ข้อมูลจาก Niko Partners)
เพื่อแก้ปัญหาและเติบโตอย่างยั่งยืน Cai Haoyu ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ จึงก้าวออกจาก HoYoverse มาร่วมก่อตั้งสตาร์ทอัปด้าน AI ในแคลิฟอร์เนียชื่อว่า Anuttacon โดยโฟกัสการพัฒนา “สื่ออินเทอร์แอคทีฟรูปแบบใหม่ที่ไม่จำกัดแค่เกม” โปรเจกต์แรกของ Anuttacon คือเกมแนวอวกาศที่ผู้เล่นสามารถสื่อสารกับตัวละครหญิงน่ารักซึ่งมีบทสนทนาแบบ AI-generated แบบเรียลไทม์ Cai ได้ดึงอดีตพนักงาน HoYoverse กว่า 10 คนมาร่วมทีม และยังได้ผู้เชี่ยวชาญ AI จาก Microsoft และ Meta มาร่วมงานด้วย
HoYoverse ยังคงมีเป้าหมายทะเยอทะยานอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าสร้างโลกเสมือนที่ “สมจริงยิ่งกว่าความจริง” ภายในปี 2030 โดยพนักงานในบริษัทยังบอกว่า “เราไม่เคยเป็นแค่บริษัทเกม” อย่างไรก็ตาม เกมยังเป็นแกนหลักของบริษัท โดย HoYoverse ดึงผู้พัฒนาเกมจาก Ubisoft และ EA มาร่วมทีมเพื่อสร้างเกมแนวใหม่ เช่น open-world และจำลองฟาร์ม เพื่อขยายฐานผู้เล่นให้กว้างขึ้น แต่การเปลี่ยนทิศทางนี้ก็ไม่ง่ายนัก
ถึงจะเผชิญความท้าทาย แต่ HoYoverse ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดเกมจีน ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 50 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.85 ล้านล้านบาท) และเป็นตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทมีพนักงานกว่า 6,000 คนทั่วโลก รวมถึงในจีน สิงคโปร์ และอเมริกาเหนือ
Cai Haoyu ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ miHoYo (ราว 41%) ทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 7.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 292,000 ล้านบาท) ตามข้อมูลของ Bloomberg
แม้ผู้เล่นบางกลุ่มจะกังวลว่า AI จะลดคุณภาพของเกมและกระทบต่ออาชีพนักพัฒนา แต่ HoYoverse ก็มองว่าเทคโนโลยีคือหนทางสู่อนาคต และกำลังเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อพาเกมจีนไปสู่เวทีโลกอีกครั้ง
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
