เมื่อไม่นานมานี้ Steam ได้ลบเกมแนวผู้ใหญ่จำนวนมากที่มีเนื้อหาโจ่งแจ้ง รวมถึงเกมที่มีธีมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศออกจากร้านค้าออนไลน์ โดยคาดว่าเกิดจากแรงกดดันจากผู้ให้บริการชำระเงิน ส่งผลให้เกิดกระแสถกเถียงเรื่องการเซ็นเซอร์เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ขณะที่กลุ่มต่อต้านสื่อลามก Collective Shout ซึ่งเคยพยายามให้แบนเกมอย่าง Grand Theft Auto V ก็ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ พร้อมโจมตีนักวิจารณ์ว่าเป็น “พวกเกมเมอร์ป่วยโรคจิตหมกมุ่นเรื่องเพศ”
กลุ่ม Collective Shout ที่มีฐานอยู่ในออสเตรเลีย โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมว่า “เกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นจำลองการข่มขืน ความสัมพันธ์ต้องห้าม และการทรมานผู้หญิงกับเด็กนับร้อย ได้ถูกลบออกจาก Steam แล้ว ซึ่งถือเป็นชัยชนะของนักเคลื่อนไหวเพื่อความปลอดภัยของเด็ก” โดยอ้างว่าเป็นผลจากที่กลุ่มได้ยื่นหนังสือถึงผู้ให้บริการชำระเงินอย่าง Visa, PayPal และ Mastercard ว่าได้กำไรจากเนื้อหาลามกที่รุนแรงบน Steam
รายงานจาก Vice ระบุว่า Collective Shout เคยเรียกร้องให้แบนเกมอย่าง Detroit: Become Human และ GTA V มาแล้วในอดีต โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาลดทอนคุณค่าของผู้หญิง แม้ความพยายามก่อนหน้านี้จะไม่สำเร็จ แต่ดูเหมือนการกดดันผ่านผู้ให้บริการชำระเงินจะได้ผลมากกว่าในกรณีนี้
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของ Steam ก็สร้างความกังวลให้กับนักพัฒนาเกมหลายราย โดยเฉพาะเมื่อแนวทางการพิจารณาของแพลตฟอร์มยังไม่ชัดเจน Valve ระบุว่าได้เพิ่มข้อกำหนดใหม่ห้ามเนื้อหาที่อาจละเมิดนโยบายของผู้ให้บริการชำระเงิน ซึ่งรวมถึง “คอนเทนต์เฉพาะทางสำหรับผู้ใหญ่บางประเภท” โดยมีผลให้เกมหลายเกม เช่น Incest Tales: Webcam Daughter และ Reincarnation in another world going to rape All NPCs VR ถูกลบออกจากระบบ ขณะที่บางเกมที่ยังมีแท็กหรือคำอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต้องห้ามกลับยังอยู่

Valve ชี้แจงกับ Eurogamer ว่า “เราได้รับแจ้งว่าเกมบางเกมบน Steam อาจละเมิดข้อกำหนดของผู้ให้บริการชำระเงินและธนาคาร ดังนั้นเพื่อไม่ให้ระบบการซื้อขายของลูกค้าได้รับผลกระทบ เราจึงต้องถอดเกมเหล่านั้นออกจากร้านค้า”
ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่า Valve จะดำเนินการลบเกมประเภทนี้ต่อไปอีกหรือไม่ หรือกระบวนการตรวจสอบมีรูปแบบอย่างไร ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าการตัดสินใจของ Steam อิงจากแนวทางของผู้ให้บริการชำระเงินจริงหรือไม่ หรือแค่ต้องการเลี่ยงดราม่าบนโซเชียล
ด้าน Melinda Tankard Reist ผู้ร่วมก่อตั้ง Collective Shout ยังคงโจมตีนักวิจารณ์อย่างรุนแรง โดยเรียกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยว่า “พวกเกมเมอร์หมกมุ่นเรื่องเพศอย่างหนัก” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ Collective Shout ไม่ได้ยกตัวอย่างเกมใดชัดเจนที่ละเมิดกฎหมายออสเตรเลีย โดยให้เหตุผลว่าเนื้อหาในเกมเหล่านั้น “สะเทือนใจเกินกว่าจะเปิดเผยได้”
ประเด็นนี้ยังพัวพันไปถึงการเซ็นเซอร์ข่าวในสื่อ เมื่อ Ana Valens นักข่าวของ Vice ผู้เปิดเผยความเชื่อมโยงระหว่าง Collective Shout กับกรณีนี้ ระบุว่าเจ้าของใหม่ของ Vice ได้ขอให้ลบบทความของเธอออกจากเว็บไซต์ เนื่องจากกังวลเรื่องความอ่อนไหวของเนื้อหา ไม่ใช่เพราะเหตุผลทางบรรณาธิการ
กรณีนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาในโลกดิจิทัล ที่ขอบเขตของการแบนเนื้อหาไม่ชัดเจน และอาจกลายเป็นเครื่องมือในการควบคุมหรือจำกัดเสรีภาพของผู้พัฒนาเกมและผู้บริโภคโดยไม่ตั้งใจ
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net