Capcom เปิดเผยในรายงานผลประกอบการครึ่งปีของบริษัท ประจำปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2026 (ครอบคลุมช่วงวันที่ 1 เมษายน – 30 กันยายน 2025) ว่าเกม Resident Evil 7: Biohazard ทำยอดขายได้ถึง 1.14 ล้านชุดภายในเวลาเพียงครึ่งปี และมียอดขายสะสมรวมทั่วโลกแล้วกว่า 15,936,000 ชุด นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ซึ่งทำให้เกมนี้ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 8 ปีติดต่อกัน
เมื่อเทียบกับผลงานอื่นในแฟรนไชส์ Resident Evil แล้ว ภาค 7 ถือเป็นเกมที่ทำยอดขายสูงเป็นอันดับสอง รองจาก Resident Evil 2 Remake (2019) เพียงภาคเดียวเท่านั้น แม้ในช่วงเปิดตัวจะไม่ได้มีกระแสแรงเท่าที่คาดไว้ เนื่องจากการเปลี่ยนแนวการเล่นมาใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งและการเปิดตัวตัวละครเอกใหม่อย่าง Ethan Winters แต่ด้วยเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และการบอกต่อของผู้เล่นทั่วโลก ก็ช่วยให้เกมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ขายดีที่สุดของ Capcom
รายงานล่าสุดยังระบุว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณนี้ (เมษายน – กันยายน 2025) เกมสามารถทำยอดขายได้อีกกว่า 1.14 ล้านชุด ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงพลังของแฟรนไชส์ Resident Evil ที่ยังคงแข็งแกร่งแม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 8 ปี
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ยอดขายของเกมยังคงเติบโต คือการที่ Resident Evil 7 ถูกวางจำหน่ายบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X|S, iOS, iPadOS, PC (Windows และ macOS) รวมถึง Nintendo Switch โดยล่าสุด Capcom ยังได้ยืนยันว่าเวอร์ชัน Nintendo Switch 2 จะเปิดตัวในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2026 ซึ่งตรงกับวันวางจำหน่ายของภาคใหม่ Resident Evil Requiem ทั่วโลกพอดี
สำหรับแฟน ๆ ที่กำลังตั้งตารอ Resident Evil Requiem ก็สามารถย้อนกลับไปสัมผัสความหลอนของครอบครัว Baker ใน Resident Evil 7: Biohazard ได้ก่อนวางจำหน่ายภาคใหม่ เพื่อรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของซีรีส์นี้
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
