OpenAI ประกาศเปิดตัว GPT-5 อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ด้านความฉลาดและความสามารถเหนือทุกรุ่นที่ผ่านมา ครอบคลุมทั้งการเขียนโค้ด คณิตศาสตร์ งานเขียน สุขภาพ การประมวลผลภาพ และอีกมากมาย
GPT-5 มาพร้อมระบบ Unified Model ที่สามารถเลือกใช้การตอบสนองแบบรวดเร็วหรือการใช้เหตุผลเชิงลึก (GPT-5 Thinking) ตามความซับซ้อนของคำถาม และยังมี Real-time Router ช่วยตัดสินใจเลือกโหมดการทำงานที่เหมาะสมแบบอัตโนมัติ
ความสามารถเด่น
- Coding: พัฒนาซอฟต์แวร์และดีบักโค้ดได้แม่นยำขึ้น ออกแบบเว็บ/แอปสวยงามได้จากเพียง 1 prompt
- Creative Writing: ช่วยสร้างสรรค์งานเขียนได้ลึกซึ้งและมีจังหวะที่เป็นธรรมชาติ
- Health: ให้คำแนะนำด้านสุขภาพแม่นยำขึ้นตามบริบทผู้ใช้ (ไม่แทนที่แพทย์)
- Multimodal: วิเคราะห์ข้อมูลภาพ วิดีโอ แผนภูมิ และเหตุผลเชิงพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น
- Instruction Following: ทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องและปรับตัวตามคำสั่งซับซ้อนได้ดีกว่าเดิม
OpenAI ชี้ว่า GPT-5 ลดการให้ข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) ลงราว 45% เมื่อเทียบกับ GPT-4o และหากใช้โหมด Thinking ลดได้ถึง 80% พร้อมปรับปรุงความตรงไปตรงมา ลดการตอบเอาใจ และมีระบบความปลอดภัยแบบ Safe Completions เพื่อให้คำตอบที่ปลอดภัยแม้ในคำถามที่มีความเสี่ยง
นอกจากนี้ยังมี GPT-5 Pro สำหรับงานที่ซับซ้อนและต้องใช้เหตุผลขั้นสูง เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการเขียนโค้ดระดับลึก
การใช้งานและการเข้าถึง
GPT-5 จะเป็นค่าเริ่มต้นใน ChatGPT แทนที่ GPT-4o และรุ่นอื่น โดยเริ่มเปิดให้ผู้ใช้แผนระดับ Free, Plus, Pro และ Team ใช้งานตั้งแต่วันนี้ ส่วน Enterprise และ Edu จะตามมาในสัปดาห์หน้า
- Pro: ใช้ GPT-5 ได้ไม่จำกัด พร้อมสิทธิ์ GPT-5 Pro
- Plus: ใช้งานได้มากกว่า Free อย่างชัดเจน เหมาะกับการทำงานแบบต่อเนื่อง
- Free: ได้ใช้ GPT-5 แต่จำกัดปริมาณ และเมื่อครบจะสลับเป็น GPT-5 mini
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X