Donkey Kong Bananza เกมใหม่ล่าสุดของ Nintendo สำหรับ Switch 2 ที่วางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทาง Nintendo ได้เผยบทสัมภาษณ์ 3 ตอนกับทีมงานหลักของเกม ซึ่งเผยรายละเอียดเบื้องหลังหลายอย่าง เช่น ระบบข้ามพื้นที่และข้ามเนื้อเรื่อง และจุดเริ่มต้นของไอเดียระบบทำลายสิ่งของที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Goomba
หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ เหตุผลที่ทำให้ทีมพัฒนาเปลี่ยนแผนจากการพัฒนาเกมลง Switch รุ่นแรก ไปเป็นพัฒนาให้ Switch 2 แทน
เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามว่า Donkey Kong Bananza ถูกวางแผนให้เป็นเกมของ Switch 2 ตั้งแต่แรกเลยหรือไม่ โปรดิวเซอร์ Kenta Motokura อธิบายว่า เกมเริ่มต้นจากการพัฒนาสำหรับ Switch รุ่นแรก แต่ในช่วงปี 2021 ทีมงานซึ่งเคยพัฒนา Super Mario Odyssey พบกับข้อจำกัดหลายด้าน จึงตัดสินใจย้ายไปพัฒนาให้ Switch 2 แทน
อาร์ตไดเร็คเตอร์ Daisuke Watanabe เสริมว่า “เราศึกษาว่าเราจะสามารถอัปเกรดสิ่งที่สร้างไว้เดิมสำหรับ Switch ให้รองรับศักยภาพของ Switch 2 ได้อย่างไร หนึ่งในจุดที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ เราสามารถวางวัตถุในฉากได้มากขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งไม่ได้แค่เพิ่มความสมจริงทางภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้เล่นสามารถทำลายสิ่งของในฉากได้มากขึ้น และเพิ่มความสะใจในการทำลายล้าง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเกมนี้ มันทำให้เรามั่นใจว่า ถ้าสร้างเกมนี้บน Switch 2 จะสนุกกว่ามาก”
Wataru Tanaka หนึ่งในผู้กำกับเกมกล่าวต่อว่า ในมุมของโปรแกรมเมอร์ เทคโนโลยี Voxel ที่ใช้สร้างฉากแบบทำลายได้ในเกมนี้ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล และเมื่อเกมเป็นสามมิติ ก็ยิ่งทำให้ขนาดของ Texture และวัสดุในเกมใหญ่ขึ้นถึง 8 เท่าจาก 2D Pixel แบบเดิม “การเพิ่มขนาดในทั้งสามมิติ (กว้าง x ยาว x สูง) จาก 2D เป็น Voxel คือ 2 x 2 x 2 = 8 เท่า ซึ่งแม้จะดูเหมือนแค่เพิ่มเป็นสองเท่า แต่ในความจริงแล้วหน่วยความจำ ความหนาแน่นของ Voxel และกระบวนการต่าง ๆ ก็ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า เราเห็นได้ชัดว่า Switch รุ่นแรกจะไม่สามารถรองรับการประมวลผลระดับนี้ได้ และการแสดงผลฉากขนาดใหญ่แบบที่เราต้องการอาจเป็นไปไม่ได้เลยบนแพลตฟอร์มนั้น”
เมื่อย้ายมาพัฒนาให้ Switch 2 ทีมงานไม่เพียงแค่ได้หน่วยความจำเพิ่มขึ้น แต่ยังได้พลังประมวลผลที่สูงกว่าด้วย ทำให้สามารถกลับมาใช้ไอเดียที่เคยละทิ้งไป เพราะเคยเกินขีดจำกัดของ Switch รุ่นแรก Tanaka เสริมว่า Switch 2 สามารถประมวลผลระบบเหล่านี้ได้ที่ 60 FPS ด้วย “สิ่งที่เราเคยยอมแพ้ เช่น การระเบิดที่ทำให้วัตถุขนาดใหญ่กระเด็นหรือล้มลง ตอนนี้ทำได้แล้ว ดีไซเนอร์ยังสามารถวางวัตถุในฉากได้ไม่จำกัดอีกด้วย มีหลายช่วงที่พวกเรารู้สึกว่า ‘ในที่สุดก็ทำได้จริง ๆ แล้ว'”
Watanabe กล่าวปิดท้ายว่า “Switch 2 ไม่เพียงแค่ทำให้เกมนี้รันได้ลื่นไหล แต่มันคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้เกิดขึ้นได้จริง”
Donkey Kong Bananza วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Nintendo Switch 2
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
