เมื่อ Trails in the Sky 1st Chapter ถูกเปิดตัวในปีที่ผ่านมา กราฟิก 3D ที่สดใสและแอนิเมชันที่ซับซ้อนของเกมรีเมกนี้ดูพัฒนาไปมากเสียจนแฟน ๆ บางส่วนถึงกับสงสัยว่า Falcom เป็นผู้พัฒนาจริงหรือไม่ จนต้องมีการยืนยันว่าเกมนี้สร้างโดยทีมงานภายในทั้งหมด โดย Trails in the Sky 1st Chapter ใช้เอนจินเฉพาะของ Falcom เช่นเดียวกับเกม Trails ภาคหลัง ๆ แต่แม้จะดูโดดเด่นมากขึ้น ทว่าเบื้องหลังกลับไม่ใช่เพราะการพัฒนาทางเทคนิคครั้งใหญ่หรือการย้ายไปใช้เครื่องมือระดับสูงกว่าเดิม
Kondo อธิบายว่า “ในแง่ของเทคโนโลยี เกม The Legend of Heroes: Trails Beyond the Horizon ถูกสร้างโดยมีมาตรฐาน PS5 เป็นหลัก แต่สำหรับ Trails in the Sky 1st Chapter เราปรับให้เหมาะสมกับการรันบน Nintendo Switch ด้วย อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าภาพและการเคลื่อนไหวที่ออกมามันดูดีมากจนมีแฟน ๆ แซวว่าเราน่าจะจ้างสตูดิโอภายนอกมาทำ (หัวเราะ)”

เขาระบุด้วยว่า ในส่วนของโมเดลตัวละครและแอนิเมชันของ Trails in the Sky 1st Chapter นั้น เขาให้คำแนะนำกับทีมงานน้อยกว่าปกติเมื่อเทียบกับภาคหลักอื่น ๆ แต่ด้วยความที่เกมต้นฉบับจากปี 2004 มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและภาพจำที่ชัดเจน ทีมงานจึงใส่ความเข้าใจจากตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเข้าไปในกราฟิกที่ถูกยกเครื่องใหม่ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนารุ่นใหม่กับทีมรุ่นเก๋า ซึ่งนำไปสู่มุมกล้องและแอนิเมชันที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมาในซีรีส์
อย่างไรก็ตาม Kondo มองว่าการพัฒนาเกมภาครีเมกนี้คือการ “กลับคืนสู่ความเรียบง่าย” เขากล่าวว่า “มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าเกมไม่จำเป็นต้องเน้นแต่สเปกเสมอไป ผมได้คิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการนำเสนอเนื้อหาและภาพในเกม ถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนเท่ากับ Trails Beyond the Horizon แต่การเล่นที่ตรงไปตรงมาก็ทำให้รู้สึกสดใหม่แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี เกมที่ซับซ้อนและลุ่มลึกก็สนุกเช่นกัน แต่ Trails in the Sky 1st Chapter ทำให้ผมรู้สึกว่าเกมแบบนี้ก็ดีไม่แพ้กัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมรู้สึกว่าการรีเมกครั้งนี้มีคุณค่าจริง ๆ”

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเอนจินที่ใช้ในเกม Kondo ตอบว่า “เราใช้เอนจินของเราเองที่ชื่อว่า Falcom Developer Kit (FDK) ตั้งแต่ Trails of Cold Steel (2013) จนถึง Trails into Reverie (2020) เราใช้ PhyreEngine ของ Sony แต่พอถึง Trails through Daybreak (2021) เราสร้างระบบเรนเดอร์ภาพและระบบเสียงขึ้นเองทั้งหมด และสิ่งนี้ก็กลายเป็นรากฐานของเอนจินภายในของเรา ดังนั้นจะเรียกว่าเป็นเอนจินใหม่ก็ไม่ถูกนัก มันเหมือนเป็นการต่อยอดจากเอนจินของ Trails through Daybreak มากกว่า”
สำหรับ Trails in the Sky 1st Chapter ทาง Falcom ปรับแค่ระบบ Shader เล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับกราฟิกเท่านั้น ไม่มีการอัปเกรดเวอร์ชันของเอนจินครั้งใหญ่ โดยหลัก ๆ แล้วระบบภายในยังคงเหมือนกับเกมก่อนหน้า เพียงแค่การนำเสนอที่เปลี่ยนไปทำให้แฟน ๆ รู้สึกว่าภาพสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Trails in the Sky 1st Chapter มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายน 2025 บน PS5, Nintendo Switch, Switch 2 และ PC (Steam) โดยเวอร์ชัน Switch 2 จะมีให้ซื้อเป็นชุดอัปเกรดในราคา $1 หรือประมาณ 32 บาท
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X