ในการให้สัมภาษณ์ร่วมของเว็บไซต์ Automaton กับ Square Enix, Orange Cube, CRI Middleware และ Live2D ทีมผู้พัฒนา Emberstoria ได้เล่าถึงเบื้องหลังการสร้างงานแอนิเมชันของเกมที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของเครื่องมือ Live2D ซึ่งปกติใช้เพียงการทำให้ตัวละครกระพริบตาหรือหายใจ แต่ครั้งนี้ถูกนำไปใช้ในระดับซีนภาพยนตร์เต็มรูปแบบ
Emberstoria เป็นเกมแนววางแผนเชิงกลยุทธ์แบบ Free-to-Play (เปิดให้บริการเฉพาะในญี่ปุ่น) ที่ใช้โมเดล 3D ระหว่างการต่อสู้ แต่เลือกใช้ Live2D ที่ขยับได้เต็มรูปแบบสำหรับฉากสนทนาและเนื้อเรื่อง เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมที่เข้าถึงผู้เล่นมากขึ้น Makiko Imamura ผู้กำกับด้านคอนเทนต์ อธิบายว่า “เราอยากเข้าถึงผู้เล่นที่หลงใหลในตัวละครและเรื่องราว จึงเลือกใช้โมเดลที่สัดส่วนสมจริงมากกว่าสไตล์ SD และ Live2D ทำให้เราทำสิ่งนี้ได้โดยไม่ทิ้งเสน่ห์ของภาพ 2D”
ทีมงานไม่ได้หยุดอยู่แค่การใช้ Live2D ในขอบเขตทั่วไป แต่ตั้งเป้าให้ซีนเนื้อเรื่องมีคุณภาพทัดเทียมกับคัตซีน 3D โดยใช้เพียงแอสเซต 2D ผ่านมุมกล้อง แสง และการแสดงสีหน้า Ryota Motohashi ผู้ออกแบบเนื้อเรื่องเผยว่า เป้าหมายคือสร้างโหมดเนื้อเรื่องที่แม้แต่ผู้เล่นที่ชอบกดข้ามก็อยากจะดู
“เกมมือถือส่วนใหญ่ใช้รูปแบบนิ่ง ๆ คล้ายหนังสือนิทาน” เขากล่าว “แต่เราต้องการสิ่งที่สะดุดตาแม้สำหรับคนที่ปกติไม่สนใจ”
จุดที่ทำให้ Emberstoria แตกต่าง คือความใส่ใจในกระบวนการแอนิเมชัน ตั้งแต่ขั้นคอนเซปต์แรก ทีมวาดภาพตัวละครได้รับอิสระให้วาดตามสไตล์เต็มที่ แม้อาจทำให้กระบวนการแยกเลเยอร์และริกกิ้งซับซ้อนขึ้น แต่ก็มีทีมโมเดลเลอร์เฉพาะที่รับหน้าที่จัดการ เพื่อให้การขยับของตัวละครยังคงรักษาความสวยงามของต้นฉบับ 2D
ด้วยดีไซน์ตัวละครที่ละเอียดอ่อน ทีมงานยังให้ความสำคัญกับการปรับแต่งเท็กซ์เจอร์ Orange Cube สามารถบีบอัดรายละเอียดของตัวละครลงบนเท็กซ์เจอร์ความละเอียดสูงเพียง 1–2 แผ่น โดยคงรายละเอียดสำคัญให้คมชัด และลดสเกลในส่วนที่ไม่จำเป็น Emberstoria ยังใช้ mipmaps (ที่ปกติปิดใช้งานในเกมลักษณะนี้) เพื่อทำให้ภาพเรนเดอร์เนียนขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงต่อประสิทธิภาพบนอุปกรณ์ที่มีความแรงน้อยหรือสเปกต่ำ Fumihito Shimizu หัวหน้าด้าน Front-End กล่าวเสริมว่า “เราต้องหาจุดสมดุลระหว่างคุณภาพภาพและประสิทธิภาพอยู่เสมอ”
สาเหตุที่ทีม Emberstoria เลือกผลักดัน Live2D แทนที่จะใช้โมเดล 3D มาจากความต้องการรักษาคุณภาพแบบแฮนด์ดรอว์ภาพต้นฉบับ Hosoda หัวหน้าวิศวกรกล่าวว่า “คุณสามารถทำให้ภาพวาดมีชีวิตโดยไม่เสียความรู้สึกดั้งเดิม และนี่คือสิ่งที่ 3D ไม่สามารถแทนที่ได้”
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
