เรียวทาโร่ อิชิมูระ (Ryutaro Ichimura) อดีตโปรดิวเซอร์ซีรีส์ Dragon Quest จาก Square Enix ได้ออกมาเล่าถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจอำลาบริษัท ในรายการ ReHacQ ตอนล่าสุด โดยอิชิมูระเริ่มทำงานกับทีมพัฒนา Dragon Quest ตั้งแต่ปี 2000 สมัยที่เขาเข้าร่วมกับ Enix ก่อนการควบรวมกับ Square และต่อมาได้กลายเป็นโปรดิวเซอร์หลักของซีรีส์ รับผิดชอบเกมดังอย่าง Dragon Quest 8, Dragon Quest 9, Dragon Quest of the Stars และ Dragon Quest Heroes จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2023 เขาประกาศลาออกจาก Square Enix และก่อตั้งสตูดิโอใหม่ชื่อ PinCool ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก NetEase Games
แม้ว่าเขาจะมีแผนอยากทำงานอิสระในอนาคตอยู่แล้ว (ตามรอย Yuji Horii ผู้สร้างซีรีส์) แต่อิชิมูระยอมรับว่าสถานการณ์ภายใน Square Enix เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจออกเร็วกว่าที่วางไว้ โดยความไม่พอใจหลักมาจากการที่บริษัทเริ่มมุ่งเน้นโปรเจ็กต์ที่ “ปลอดภัย” และเลียนแบบเกมฮิตในตลาด เขามองว่าทัศนคติแบบนี้ขัดแย้งกับคุณค่าหลักของ Dragon Quest จึงเลือกออกมาก่อนเวลา
อิชิมูระอธิบายว่า แก่นสำคัญของ Dragon Quest คือการพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่ “ใน Dragon Quest 2 มีปาร์ตี้ 3 คน, ใน Dragon Quest 3 ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาชีพได้, ใน Dragon Quest 4 ตัวละครสามารถสู้ด้วย AI ได้ แต่ละภาคต่างผลักดันซีรีส์ไปข้างหน้า ทั้งในด้านกลไกเกมและการใช้ศักยภาพของฮาร์ดแวร์ในยุคนั้น” เขาอยากให้ Dragon Quest ยังคงเป็น “ผู้นำ” ในการสร้างนวัตกรรม และตัวเขาเองก็รู้สึกสนุกที่สุดเมื่อได้ “สร้างอะไรจากศูนย์” เพื่อทำให้ผู้เล่นแปลกใจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนการพัฒนาเกมที่พุ่งสูง ทำให้การเปิดตัวเกมใหม่จำเป็นต้องขายได้ในจำนวนมหาศาลเพื่อให้คุ้มทุน แม้ Dragon Quest จะยังคงได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่น แต่การทำผลงานได้อ่อนแอกว่าในฝั่งตะวันตก (เมื่อเทียบกับซีรีส์ Final Fantasy) ทำให้ Square Enix หันไปทำโปรเจกต์ที่ดัดแปลงจากเกมดังในตลาด “พูดตรง ๆ ก็คือ มันคือการก็อปปี้คนอื่น” อิชิมูระกล่าว
ตัวอย่างที่เขายกมา ได้แก่ Dragon Quest Builders ที่ทำขึ้นโดยอิงจาก Minecraft และ Dragon Quest Walk ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Pokémon Go รวมถึงโปรเจ็กต์ที่เสนอมาอย่างเกมแนว PUBG และ LINE: Disney Tsum Tsum เขามองว่าการที่โปรเจ็กต์แนว “ก็อปปี้” หรือที่เขาเรียกว่า “Pakuri Kikaku” มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสิ่งที่ขัดกับบทบาทของ Dragon Quest ซึ่งควรเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ ไม่ใช่ผู้ตาม ขณะที่ไอเดียบางอย่างของเขากลับถูกปฏิเสธ เช่น “Dragon Quest Maker” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เรียนรู้การสร้างโลกและโครงสร้างเนื้อเรื่องผ่านการเล่นเกม พร้อมเครื่องมือให้สร้างเกมสไตล์ Dragon Quest ของตนเองได้
ด้วยการพัฒนาเกมใหม่ที่ใช้เวลา 4–5 ปีต่อหนึ่งโปรเจกต์ อิชิมูระจึงกังวลว่าจะต้องใช้เวลาที่เหลือในอาชีพไปกับโปรเจกต์ที่ “ปลอดภัย” ตามนโยบายของ Square Enix ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเลือกเดินออกมา
ปัจจุบันสตูดิโอใหม่ PinCool ของอิชิมูระกำลังพัฒนาเกมชื่อ Pritto Prisoner เกมปาร์ตี้แนวแหกคุกที่แต่ละฝ่ายมีบทบาทต่างกัน โดยที่ผู้เล่นใช้พลัง “PeePee และ Poopie” เพื่อหลอกล่อและเอาชนะหุ่นยนต์ผู้คุมคุก
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
