รูปแบบ Game Key Card กำลังได้รับเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นเพียง “ตลับเปล่าที่มีแค่โค้ดดาวน์โหลด” ที่ไม่มีข้อมูลเกมใด ๆ บรรจุอยู่เลย ต่างจากตลับเกมในอดีตที่มีข้อมูลเกมพร้อมเล่นในตัว
ข้อแตกต่างหลักระหว่าง Game Key Card กับเกมดิจิทัลคือ ผู้ซื้อสามารถขายต่อ Game Key Card ได้ และใช้งานกับเครื่อง Switch 2 อื่นได้ทันที โดยไม่ต้องใช้ฟีเจอร์ยืมเกมผ่านระบบ Virtual Game Card
ปัจจุบัน เกมจากค่าย third-party บน Switch 2 ส่วนใหญ่ใช้รูปแบบ Game Key Card ยกเว้นบางเกม ซึ่งมีรายงานว่า Nintendo เปิดให้ใช้ตลับได้เพียงขนาดเดียวคือ 64GB ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านต้นทุนการผลิต
กลุ่มผู้เรียกร้องการอนุรักษ์เกม (game preservationists) ออกมาวิจารณ์ระบบนี้ โดย Stephen Kick ซีอีโอของ Nightdive Studios กล่าวว่า “การที่ Nintendo เลือกใช้วิธีนี้ค่อนข้างน่าหดหู่… บริษัทใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานน่าจะให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์เกมมากกว่านี้”
ขณะที่ Alex Hutchinson ผู้กำกับเกม Far Cry 4, Assassin’s Creed 3 และ Revenge of the Savage Planet ก็กล่าวว่า “ผมไม่ชอบเลย มันทำให้เราสูญเสียเสน่ห์บางอย่างของวงการนี้ไป… การแลกตลับกันที่โรงเรียน หรือความรู้สึกตอนจับของจริงมันหายไปหมด”
เขายังพูดถึงกระแสวิจารณ์ว่า “เป็นเรื่องน่าขันที่ Nintendo ยังรอดจากการถูกวิจารณ์ ทั้งที่ถ้าเป็น Microsoft คงโดนกระหน่ำเละไปแล้ว โดยเฉพาะในยุโรป”
ทางด้าน Capcom ก็ออกมาชี้แจงว่าเกมบน Nintendo Switch 2 ที่จำหน่ายในรูปแบบ Game Key Card จะถูกนับรวมเป็นยอดขายแบบดิจิทัล ไม่ใช่ยอดขายกล่องหรือแผ่นแบบดั้งเดิม แม้จะมีหน้ากล่องวางขายตามร้านค้าก็ตาม
คำชี้แจงนี้ปรากฏอยู่ในการตอบคำถามนักลงทุนในผลประกอบการล่าสุด โดยมีการยกตัวอย่างเกม Street Fighter 6 บน Switch 2 ซึ่งจะใช้วิธีนับยอดขายแบบเดียวกับเกมดาวน์โหลดทั่วไป
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
