Capcom ประกาศความสำเร็จ Street Fighter 6 ทำยอดขายทะลุ 5 ล้านชุดเป็นที่เรียบร้อย หลังจากทำได้ 4 ล้านชุดเมื่อเดือนกันยายน 2024 โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายคือการเปิดตัวบน Nintendo Switch 2
Capcom เผยว่าการนำเกมมาต่อยอดบน Switch 2 เป็นการ “ขยายฐานผู้เล่นให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้” โดยเวอร์ชัน Switch 2 มีโหมดพิเศษเฉพาะแพลตฟอร์มนี้ และยังเพิ่มฟีเจอร์การเล่นแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากการควบคุมแบบไจโรของ Joy-Con 2 อีกด้วย ทั้งยังรองรับ crossplay ทำให้จับคู่เล่นกับผู้เล่นจากแพลตฟอร์มอื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น
“ความพยายามเหล่านี้ช่วยให้ Street Fighter 6 เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น ขยายยอดขายทั่วโลก และทำให้เราทำยอดทะลุ 5 ล้านชุดได้สำเร็จ” Capcom กล่าว
ก่อนหน้านี้ Street Fighter 6 ทำยอดขายถึง 3 ล้านชุดในเดือนมกราคม 2024 หรือประมาณ 7 เดือนหลังวางจำหน่าย โดย Capcom เคยตั้งเป้าว่าเกมภาคนี้จะมียอดขายตลอดอายุมากกว่า 10 ล้านชุด ซึ่งมากกว่าภาคก่อนหน้าอย่าง Street Fighter 5 ที่ปัจจุบันทำยอดขายรวมได้ราว 7.8 ล้านชุด
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพ Street Fighter 2 Turbo บน SNES เคยทำได้ 4.1 ล้านชุด, ภาคดั้งเดิม Street Fighter 2 ทำได้ 6.3 ล้านชุด ส่วนคู่แข่งร่วมวงการอย่าง Mortal Kombat 1 (วางขายกันยายน 2023) ก็มียอดขายถึง 5 ล้านชุดแล้วเช่นกัน แม้จะถูกมองว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และทาง NetherRealm ก็ประกาศว่าได้หยุดการอัปเดตเกมเพื่อหันไปพัฒนาโปรเจกต์ใหม่แล้วก็ตาม
ในขณะที่ Capcom ยังเดินหน้าซัพพอร์ต Street Fighter 6 ต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 โดยล่าสุดเพิ่งเปิดตัวตัวละคร DLC ชุดใหม่ 4 ตัว ได้แก่ Sagat (ฤดูร้อน 2025), C. Viper (ฤดูใบไม้ร่วง), Alex (ต้นฤดูใบไม้ผลิ 2026) และ Ingrid (ปลายฤดูใบไม้ผลิ 2026) ซึ่งเปิดตัวผ่านเทรลเลอร์สุดฮาที่ได้ Kenny Omega นักมวยปล้ำชื่อดังมารับบทเป็นตัวละครทั้ง 4 คน
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
