Capcom เผยแนวทางอย่างเป็นทางการสำหรับผลงานที่สร้างโดยแฟนเกม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ครอบคลุมผู้สร้างผลงานทุกประเภท ทั้งแฟนอาร์ต มังงะ อนิเมะ แฟนฟิก รวมถึงฟิกเกอร์ที่อ้างอิงจาก IP ของบริษัท โดยแนวทางนี้แม้จะไม่ได้เข้มงวดกว่ามาตรฐานของผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่นรายอื่นนัก แต่ก็มีรายละเอียดที่แฟน ๆ ควรรู้ไว้ก่อนสร้างผลงาน
เริ่มจากข้อแนะนำให้ระบุให้ชัดเจนว่าผลงานนั้นอ้างอิงจาก IP ของ Capcom แม้จะไม่ใช่ข้อบังคับ แต่บริษัทมองว่าเป็นมารยาทที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากเป็นการนำสื่อของบริษัทมาใช้โดยตรง เช่น ฟุตเทจเกมเพลย์ หรือตัวอย่างเกม แนวทางนี้จะไม่ครอบคลุม และผู้ใช้ควรปฏิบัติตาม “Video Guidelines” ของ Capcom แทน
สำหรับผลงานที่จัดทำขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไร Capcom ระบุชัดว่า “ไม่อนุญาต” ให้ใช้ IP ของบริษัทในเชิงพาณิชย์ ยกเว้นสิ่งพิมพ์อย่างโดจินชิหรือแฟนซีน ที่จัดทำในปริมาณจำกัดและตั้งราคาไม่สูง โดยต้องเป็นผลงานของผู้สร้างสมัครเล่นเท่านั้น ทั้งนี้ Capcom จะเป็นผู้พิจารณาเองว่างานใดเข้าข่าย “งานอดิเรก” หรือ “เชิงพาณิชย์” โดยพิจารณาจากขนาดของการจำหน่าย
ถึงแม้จะไม่ได้ระบุจำนวนแน่ชัด เช่น ยอดขายสูงสุดที่อนุญาต แต่บริษัทคาดหวังให้แฟน ๆ ดำเนินการอย่างเหมาะสมอยู่ในขอบเขตที่พอดี สำหรับผลงานสามมิติอย่างฟิกเกอร์หรือโมเดล การขายจะถูกห้ามโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะจัดจำหน่ายในงานที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเท่านั้น
Capcom ยังย้ำว่า ผลงานจากแฟนเกมทั้งหมดต้องสอดคล้องกับจรรยาบรรณของบริษัท โดยห้ามเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น ลามก อนาจาร เหยียดเพศหรือเชื้อชาติ รวมถึงเนื้อหาที่อาจทำลายชื่อเสียงของบริษัท นอกจากนี้ การทำซ้ำหรือจำลองสินค้าทางการก็ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน
หากมีการฝ่าฝืนแนวทางดังกล่าว Capcom อาจขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหยุดเผยแพร่หรือยุติการผลิตผลงานนั้นทันที และหากพบการใช้ IP ในทางมุ่งร้าย บริษัทอาจดำเนินคดีทางอาญาหรือทางแพ่งกับผู้กระทำผิดโดยตรง
อีกหนึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจคือ แนวทางฉบับใหม่นี้มาพร้อมภาพอาร์ตพิเศษของ Mega Man ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ที่ไม่ได้มีภาคหลักออกมาตั้งแต่ปี 2018 กับเกม Mega Man 11 แม้ Capcom จะยืนยันมาตลอดว่ากำลังพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ของฮีโร่สีน้ำเงินอยู่ แต่การเห็นตัวละครนี้ปรากฏในเอกสารอย่างเป็นทางการเช่นนี้ ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแฟน ๆ ที่รอคอยการกลับมาของซีรีส์นี้
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
