Philipp Weber ผู้กำกับการด้านเนื้อเรื่องของ CD Projekt Red เปิดใจถึงแรงกดดันในการพัฒนา The Witcher 4 ที่ต้องสานต่อความยิ่งใหญ่ของภาคก่อนหน้าอย่าง The Witcher 3 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล
Weber ซึ่งเคยเริ่มต้นจากตำแหน่ง Junior Quest Designer ใน The Witcher 3 และได้รับการเลื่อนขั้นเป็น Quest Designer ในภาคเสริม Hearts of Stone และ Blood and Wine กล่าวว่า “Witcher 3 เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แล้วเราจะทำให้ดียิ่งกว่านั้นได้อย่างไร?”
The Witcher 3 ทำยอดขายไปแล้วกว่า 60 ล้านชุดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เล่นทั่วโลกชื่นชอบมากที่สุดทั้งในด้านเนื้อเรื่อง ตัวละคร และดนตรีประกอบ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทีมพัฒนาจะรู้สึกกดดันกับภาคต่อ
อย่างไรก็ตาม Weber ย้ำว่าความสำเร็จของ The Witcher 4 จะไม่วัดกันด้วยตัวเลขหรือยอดขายเท่านั้น เขามองว่าเป้าหมายของทีมคือการยึดมั่นในแนวทางและปรัชญาเดิมของการเล่าเรื่องและการออกแบบเควสต์ที่สร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็ต้องกล้าทดลองสิ่งใหม่เพื่อให้เกมภาคใหม่นี้รู้สึกเหมือนเป็นภาคต่อที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การทำซ้ำของภาคก่อน
“เราต้องมีความสมดุลระหว่างการเคารพสิ่งที่เราสร้างไว้ในอดีต และการมองไปข้างหน้าด้วยการทดลองอะไรใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่สดใหม่แต่ยังคงคุณภาพแบบเดิมไว้”
Weber ย้ำว่าเป้าหมายของเขาและทีมคือการสร้างเกมที่แฟน ๆ The Witcher 3 จะยังรักได้ในแบบเดียวกัน เพราะพวกเขายังคงยึดถือแนวคิดเดิมในการสร้างเกม การเล่าเรื่อง และคุณค่าของซีรีส์นี้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
แม้ความคาดหวังจะสูงลิ่ว แต่ CD Projekt Red ก็ตั้งเป้าทำ The Witcher 4 ให้กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกที่แฟนเกมจะจดจำไปอีกนาน
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X