Tesla ได้ยื่นมือช่วยเหลือลูกค้าที่จำเป็นต้องซ่อมรถอย่างเร่งด่วนแต่ประสบปัญหาด้านการเงิน ด้วยการนำระบบ “Buy Now, Pay Later” (ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง) ซึ่งเดิมเคยใช้เฉพาะกับร้านค้าออนไลน์ มาปรับใช้กับศูนย์บริการรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ทาง Tesla ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับแอปพลิเคชันของตนในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ด้วยการเปิดตัวระบบ “Buy Now, Pay Later” (ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง) สำหรับบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถยนต์ โดยระบบนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Affirm และ Klarna เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อ
ฟีเจอร์ใหม่นี้มาพร้อมกับแอปเวอร์ชัน 4.46 ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้า Tesla ที่ต้องการนำรถเข้ารับบริการซ่อมแซมแต่มีข้อจำกัดด้านการเงิน สามารถเข้าถึงตัวเลือกการผ่อนชำระได้สะดวกยิ่งขึ้น
ตัวเลือกนี้จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติในส่วน “Service Estimate” (ประมาณการค่าบริการ) ของแอป เมื่อผู้ใช้เปิดหน้าจอประมาณการค่าบำรุงรักษา ลูกค้าจะเห็นข้อความว่า “Pay over time – see if you qualify” (ผ่อนชำระ – ดูว่าคุณมีคุณสมบัติหรือไม่) แสดงอยู่บนหน้าจอ
เมื่อแตะข้อความดังกล่าว แอปจะนำไปยังหน้าจอใหม่ที่มีการคำนวณการชำระเงิน ระบบจะแสดงแผนการผ่อนชำระต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ พร้อมระบุค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน
ในหน้าชำระเงินสำหรับบริการ ผู้ใช้จะสามารถเลือก Affirm หรือ Klarna (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) เป็นวิธีการชำระเงิน นอกเหนือจากตัวเลือกเดิมอย่าง Tesla Credit และบัตรเครดิต โดยแผนการผ่อนชำระจะถูกยืนยันเมื่อผู้ใช้ดำเนินการถึงขั้นตอนสุดท้ายของการชำระเงิน
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีค่าบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ค่าซ่อมบางรายการ เช่น การเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือตัวมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่นอกระยะประกัน อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ฟีเจอร์ Buy Now, Pay Later จึงเป็นทางเลือกที่ให้ความยืดหยุ่นแก่เจ้าของรถในการจัดการค่าใช้จ่ายในสถานการณ์เหล่านี้
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net