Yusuke Tomizawa โปรดิวเซอร์ใหญ่ของแฟรนไชส์ Tales เปิดใจถึงเบื้องหลังการทำงานของโปรเจกต์ Tales Remastered ระหว่างงาน Tokyo Game Show 2025 โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงไม่เรียงลำดับภาคในการรีมาสเตอร์ให้ตรงตามปีที่วางจำหน่าย
โปรเจกต์ Tales Remastered เริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อพาเกมภาคเก่าในซีรีส์มาสู่เครื่องเกมยุคใหม่ก่อนถึงวาระครบรอบ 30 ปีของแฟรนไชส์ โดยเกมแรกที่เปิดตัวคือ Tales of Graces f Remastered ซึ่งเป็นภาคหลักลำดับที่ 12 (วางจำหน่ายดั้งเดิมในปี 2009) ตามมาด้วยประกาศรีเมก Tales of Xillia ซึ่งเป็นภาคที่ 13 จากปี 2011
หลายคนคาดหวังว่า Bandai Namco จะรีมาสเตอร์เกมตามลำดับปี แต่ Tomizawa ชี้แจงว่าอุปสรรคด้านเทคนิคทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยเขาเล่าว่า “เราต้องเริ่มจากการหาว่าซอร์สโค้ดเก็บอยู่ที่ไหน และใครเป็นคนดูแล ซึ่งบางครั้งมันก็น่าอาย เพราะในอดีตมีหลายสตูดิโอช่วยกันพัฒนาเกมเหล่านี้ และเมื่อเจอข้อมูลแล้ว ก็มักจะมีช่องว่างมากมายที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวิเคราะห์”

เพื่อไม่ให้กระบวนการสะดุดจากภาคใดภาคหนึ่งที่ใช้เวลาฟื้นฟูนานเกินไป Bandai Namco จึงดำเนินการรีมาสเตอร์หลายเกมพร้อมกัน แล้วเลือกเปิดตัวภาคที่น่าจะเสร็จเร็วที่สุดก่อน Tomizawa ยอมรับว่าเรียงตามลำดับเวลาจะดูเป็นระเบียบกว่า และเข้าใจว่าหลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไมเรียงภาคแปลก ๆ ?” แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการรีบส่งเกมภาคเก่าเหล่านี้ให้ถึงมือผู้เล่นโดยเร็วที่สุด ทั้งในแง่ของความเร็วและปริมาณ
เขาเสริมว่า “ช่วงหนึ่งเราเคยพยายามยึดลำดับเวลาแบบเคร่งครัด และสุดท้ายกลับไม่มีเกมออกมาเลย ซึ่งเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับทีมมาก” แม้ตอนนั้นเขาจะไม่ลงรายละเอียด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ปัญหาจากข้อมูลซอร์สที่ขาดหายคือหนึ่งในสาเหตุหลักที่เคยขวางการปล่อยเกม
สำหรับโปรเจกต์ Tales Remastered ในรอบใหม่นี้ การเลือกภาคที่จะพัฒนา จะพิจารณาทั้งจากกระแสเรียกร้องของแฟน ๆ และความพร้อมของไฟล์ข้อมูลที่ทำให้มีโอกาสวางจำหน่ายได้จริงในเร็ววัน
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X