Sony ได้เปิดเผยแนวทางการใช้งาน AI ในรายงานประจำปีล่าสุด โดยระบุว่าบริษัทเลือกใช้โมเดลภาษา LLM (Large Language Model) สำหรับช่วยสนับสนุนการทำงานของพนักงาน มากกว่าจะนำไปใช้สร้างโมเดลหรือเนื้อหาในเกมโดยตรง แม้เทคโนโลยีนี้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเกมก็ตาม
รายงานจาก GameSpot ระบุว่า Sony ได้นำ Enterprise LLM มาใช้ภายในองค์กรอย่างแพร่หลาย โดยตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีพนักงานกว่า 50,000 คนจาก 210 ทีมใช้งานโมเดลนี้เป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์ ซึ่งรวมถึงทีมงานสายบันเทิงและวิดีโอเกมด้วย
Sony ยืนยันว่าเป้าหมายของการนำ LLM เข้ามาใช้ คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมนุษย์ ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนาและศิลปินที่มีอยู่แล้ว โดยโมเดลดังกล่าวถูกนำมาใช้ในงานวิจัย การเขียนบท และการปรับปรุงกระบวนการผลิตคอนเทนต์ เช่น การเพิ่มคุณภาพของภาพยนตร์เก่า รวมถึงการอัปสเกลภาพด้วยเทคโนโลยี PSSR (PlayStation Spectral Super Resolution) บน PS5 Pro
แม้ Sony จะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เครื่องมือ AI ขโมยภาพ เสียง หรือผลงานศิลป์ของผู้อื่น แต่ก็ยังมีความกังวลจากหลายฝ่าย ตัวอย่างเช่นในเดือนมีนาคม 2025 ที่มีคลิปของ Aloy จาก Horizon Forbidden West ปรากฏออกมาบนอินเทอร์เน็ต โดยเธอพูดด้วยเสียงที่สร้างจาก AI พร้อมแสดงสีหน้าตอบสนองกับผู้เล่น ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกลบออกอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นชนวนให้เกิดกระแสคัดค้านจากนักพากย์ที่มองว่า AI กำลังคุกคามงานของพวกเขา
ในขณะที่ Sony ยังไม่มีรายงานว่ามีการลดขนาดทีมพัฒนาเพราะ AI แต่กระแสความกังวลก็ยังคงอยู่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้นทุนการพัฒนาเกมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนักพัฒนาบางส่วนหวั่นว่าจะถูกลดบทบาทลงในอนาคต
คู่แข่งอย่าง Microsoft เองก็เดินหน้าใช้ AI เช่นกัน โดย Project Muse ใช้ Generative AI สร้างภาพกราฟิกและฉากต่าง ๆ ในเกม ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าอาจลดบทบาทของนักพัฒนาเกมลง แม้ Microsoft จะยืนยันว่าการสร้างเกมยังคงต้องพึ่งพาการมีส่วนร่วมของมนุษย์อยู่ก็ตาม
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X