Lord of Mysteries นวนิยายเว็บจากจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลงานแนวนี้ที่ดีที่สุด เพิ่งเปิดตัวฉบับแอนิเมชันอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน หลังจากถูกแฟน ๆ โปรโมตและคาดหวังมานานหลายเดือน ท่ามกลางคำถามว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จได้มากแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับ Solo Leveling ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ไปก่อนหน้า
ซีรีส์แอนิเมชัน Lord of Mysteries เปิดตัวพร้อมกัน 2 ตอน ตอนละประมาณ 35 นาที ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความพยายามสร้างความสนใจจากผู้ชมในช่วงแรก โดยแม้งานภาพและการกำกับจะได้รับคำชม แต่สิ่งที่ถูกวิจารณ์หนักคือจังหวะดำเนินเรื่องของ 2 ตอนแรก ที่เร่งดัดแปลงจากต้นฉบับมากกว่า 40 ตอนภายในเวลาอันสั้น
ผลลัพธ์คือฉากต่าง ๆ ขาดความลุ่มลึกและช่วงเวลาผ่อนจังหวะ ไม่มีเวลาให้ผู้ชมซึมซับหรือเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งที่ต้นฉบับเริ่มเรื่องด้วยจังหวะที่ช้าและใกล้เคียงแนว Slice-of-life การเร่งจังหวะมากเกินไปในแอนิเมชันจึงกลายเป็นปัญหาร้ายแรง โดยเฉพาะกับเรื่องที่มีธีมเฉพาะทางและระบบเวทมนตร์แหวกแนวอย่าง Lord of Mysteries
ทางเทคนิคแล้ว Lord of Mysteries จัดเป็นแนว Isekai (เกิดใหม่ต่างโลก) แต่เนื้อเรื่องเบี่ยงออกจากสูตรสำเร็จด้วยฉากหลังแบบวิกตอเรียนหม่น ๆ ผสมความเป็น Steampunk และ Lovecraftian ซึ่งช่วยให้มีเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เข้าถึงยาก และอาจไม่เหมาะกับตลาดวงกว้างแบบเดียวกับ Solo Leveling ที่เน้นแฟนตาซีสายพลังเหนือมนุษย์
Lord of Mysteries เป็น Donghua หรือแอนิเมชันจีนที่ผลิตโดยสตูดิโอ B.C May Pictures จากจีน และสร้างจากนิยายจีนต้นฉบับ ขณะที่ Solo Leveling แม้สร้างจากนิยายเกาหลี แต่ผลิตโดยสตูดิโอญี่ปุ่น อีกประเด็นสำคัญคือเสียงพากย์ เพราะ Lord of Mysteries ใช้เสียงภาษาจีน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นออกมาทั้งที่ฉายไปแล้วกว่า 30 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นข้อเสียเปรียบต่อผู้ชมทั่วไปที่นิยมพากย์ญี่ปุ่น
ข้อเท็จจริงเหล่านี้สะท้อนชัดในตัวเลข: หลังจาก Solo Leveling ออกอากาศตอนแรกไป 48 ชั่วโมง มีผู้กดถูกใจบน Crunchyroll มากกว่า 110,000 ครั้ง ขณะที่ Lord of Mysteries แม้จะฉายไปแล้วกว่า 30 ชั่วโมง กลับมีเพียงราว 14,000 ไลก์เท่านั้น ช่องว่างด้านความนิยมจึงปรากฏชัดตั้งแต่เริ่มต้น และการจะไล่ให้ทันนั้นขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาทั้งด้านจังหวะเรื่องและเสียงพากย์ในอนาคต
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยากที่ Lord of Mysteries จะไปถึงระดับความนิยมแบบ Solo Leveling ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะมีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม แฟนนิยายดั้งเดิมคงอดผิดหวังไม่ได้ เพราะตัวแอนิเมชันยังห่างชั้นจากต้นฉบับที่โด่งดังทั้งด้านคุณภาพและความลึกของเนื้อหา
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
