แม้จะไม่เคยอ่านต้นฉบับมังฮวา ไม่ตามนิยาย และแทบไม่รู้พื้นเรื่องมาก่อน แต่ Omniscient Reader: The Prophecy ก็สามารถดึงผู้ชมหน้าใหม่ให้ “อิน” ได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเนื้อเรื่องที่เดินหน้าไม่หยุด ลุ้นระทึกแทบตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง โดยทีมสร้างเดียวกับ “Along with the Gods”
เนื้อหาเข้มข้น เข้าใจง่าย ไม่ต้องรู้จักต้นฉบับก็สนุกได้
ตัวภาพยนตร์เลือกเล่าเรื่องอย่างกระชับ พร้อมตั้งคำถามถึงความหมายของคำว่า “ฮีโร่” และความรับผิดชอบในการรู้อนาคต โดยตัวเอกไม่ใช่ผู้กล้า แต่เป็น “ผู้อ่าน” ที่ถูกผลักดันให้กลายเป็นผู้เล่น และพยายามช่วยชีวิตผู้อื่นให้มากที่สุด ซึ่งต่างจากพระเอกในต้นฉบับผู้เย็นชา การดำเนินเรื่องมีโครงสร้างแบบเกม RPG ที่หลายคนคุ้นเคย—ตัวเอกได้รับภารกิจ ฝ่าฟันกับสัตว์ประหลาด อัปเกรดพลัง และร่วมมือกับผู้เล่นคนอื่น—แต่ทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมาในแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ยืดยาด ทุกฉากมีเป้าหมายชัดเจนและมีจุดไคลแมกซ์ที่ต่อเนื่อง
ตัวละคร และ นักแสดงที่ “แบกเรื่อง” ได้อยู่หมัด
- อันฮโยซอบ รับบท “คิมดกจา” ตัวเอกของเรื่อง เป็นสายเนิร์ดที่ไม่ได้เทพเวอร์ แต่มีไหวพริบและพัฒนาการให้คนดูเอาใจช่วยตลอดทาง
- อีมินโฮ กับบท “ยูจองฮยอก” พระเอกในต้นฉบับ คาแรกเตอร์ขี้เก๊ก น่าหมั่นไส้แต่เท่แบบเถียงไม่ได้ หล่อและทรงพลัง
- แชซูบิน เป็น “ยูซังอา” ที่ดูเหมือนตัวประกอบน่ารัก ๆ ตอนแรก กลับกลายเป็นกำลังสำคัญในครึ่งหลังของเรื่อง
- จีซู สวมบท “อีจีฮเย” แม้บทไม่มาก แต่ทุกฉากที่ปรากฏคือโดดเด่น ทั้งซีนแอ็กชันและปมอารมณ์ เล่นใหญ่และขึ้นกล้องสุด ๆ (แต่ก็เป็นตัวละครที่ขัดใจแฟนนิยายที่สุดเช่นกัน)
- นานะ รับบท “จองฮีวอน” โชว์ฉากแอ็กชันได้อย่างสวยงาม มีบทบาทสำคัญในช่วงไคลแมกซ์ของเรื่อง
CG ยังไม่เนียน 100% แต่ไม่ถึงกับน่าขัดใจ
แม้จะมีฉากที่ใช้ CG หนักเกินครึ่งของเรื่อง และยังมีจุดให้ขัดใจอยู่บ้าง อย่างโทแกบีที่ดูเหมือนโมเดลในเกม (แถมดันไปคล้ายโดราเอมอน) แต่ดีไซน์โดยรวมของสัตว์ประหลาด ฉากต่อสู้ และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ทำออกมาได้ดีในระดับต้น ๆ ของภาพยนตร์เอเชีย
พากย์ไทยคุณภาพดี
ใครที่เลือกดูแบบพากย์ไทยไม่ต้องกังวล เพราะทีมพากย์ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี มีจังหวะเรียกเสียงหัวเราะแทรกความลุ้นในจังหวะเหมาะ ๆ อีกทั้งยังเข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ชมทั่วไปที่ไม่อยากนั่งอ่านซับตลอดเรื่อง
บทสรุป
Omniscient Reader: The Prophecy คือภาพยนตร์แอ็กชันแฟนตาซีสไตล์มังฮวาที่ดูแล้ว “มันส์จริง” ทั้งเนื้อเรื่อง ตัวละคร และการดำเนินเรื่องที่พาอารมณ์ผู้ชมขึ้นลงได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่รู้จักต้นฉบับมาก่อน ก็สามารถสนุกและอินไปกับโลกของ “คิมดกจา” ได้แบบเต็มอิ่ม
แนะนำให้ดูในโรงภาพยนตร์เพื่อรับประสบการณ์เต็มรูปแบบทั้งภาพและเสียง
คะแนนโดย TechCatchUp: ★★★☆☆ (3/5)
- สิ่งที่ทำได้ดี: เล่าเรื่องเร็ว เข้าใจง่าย นักแสดงเล่นดี แอ็กชันสนุก พากย์ไทยคุณภาพ
- สิ่งที่ยังไม่ลงตัว: CG ยังลอยในบางฉาก ตัวรองบางคนบทจาง แฟนนิยายอาจไม่อินบางจุด
- สิ่งที่ไม่ควรพลาดหลังหนังจบ: มี 1 ฉากกลางเครดิต
Omniscient Reader: The Prophecy อ่านชะตาวันสิ้นโลก ฉายแล้ววันนี้ (31 กรกฎาคม 2025) ในโรงภาพยนตร์
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
