แม้ Nintendo จะเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลกจากความกล้าคิดต่าง เช่น การออกแบบ Nintendo Switch รุ่นแรก แต่ก็ยังคงมีรายละเอียดเฉพาะที่อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังความชัดเจนและการสื่อสารที่เข้าใจง่าย ล่าสุด ปัญหาความสับสนเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับ Nintendo Switch 2 และรูปแบบตลับเกมใหม่ที่ใช้ในระบบ
Nintendo Switch 2 ยังคงรองรับสื่อแบบตลับเช่นเดิม โดยมีเกมวางจำหน่ายในรูปแบบตลับมากมาย เช่น Mario Kart World, Bravely Default Flying Fairy, Yakuza 0 และอีกหลายเกม อย่างไรก็ตาม Nintendo ได้เปิดตัวตลับ 3 ประเภทใหม่ที่อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ซื้อ ได้แก่:
- LB: ใช้งานได้เฉพาะกับ Nintendo Switch 2 เท่านั้น
- LP: เป็น Game Key ที่ต้องดาวน์โหลดข้อมูลเกมทั้งหมดผ่านอินเทอร์เน็ต
- LN: ใช้งานได้ทั้งบน Switch รุ่นเดิมและ Switch 2
การแบ่งประเภทตลับในลักษณะนี้ แม้จะมีเจตนาดีในการแยกความสามารถของแต่ละเกม แต่ก็สร้างภาระให้กับผู้ซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มพ่อแม่หรือผู้เล่นที่ไม่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด อาจซื้อเกมที่ไม่สามารถเล่นบนเครื่องที่มีอยู่ได้
ตลับประเภท LP หรือ Game Key กลายเป็นประเด็นสำคัญ เพราะแม้จะมีตลับอยู่ในมือ แต่เกมภายในต้องดาวน์โหลดทั้งหมดจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งหมายความว่าเมื่อเซิร์ฟเวอร์ปิดให้บริการ ตลับดังกล่าวก็จะไม่สามารถใช้เล่นเกมได้อีกต่อไป เช่นเดียวกับเกมเปิดตัวอย่าง Bravely Default Flying Fairy, Star Wars Outlaws, Sonic X Shadow Generations และ Hitman ที่วางจำหน่ายผ่านตลับ Game Key เท่านั้น
ต้นเหตุสำคัญมาจากต้นทุนการผลิตตลับความจุสูงที่มีราคาสูง ทำให้ผู้พัฒนาหลายรายเลือกออกเกมในรูปแบบ Game Key แทนเพื่อประหยัดต้นทุน แต่ก็สร้างข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรักษาเกมในระยะยาว
เมื่อผนวกรวมกับขนาดเกมที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้พื้นที่จัดเก็บที่มากขึ้น แม้แต่แพลตฟอร์มของ Nintendo ที่เคยใช้สื่อขนาดเล็กก็กำลังเผชิญกับความท้าทายนี้ การเปิดตัวตลับ 3 แบบพร้อมกันในระบบที่ผู้ใช้กลุ่มหลักเป็นผู้เล่นทั่วไป อาจกลายเป็นภาระที่ยากต่อการทำความเข้าใจ และทำให้ภาพลักษณ์ของสื่อเกมในรูปแบบตลับอาจเสื่อมความนิยมลงในอนาคต
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net