Masayoshi Yokoyama หัวหน้าสตูดิโอ RGG Studio เปิดเผยว่าเกม Like a Dragon: Pirate Yakuza in Hawaii ซึ่งเป็นภาคแยกล่าสุดในซีรีส์ Like a Dragon กำลังมียอดขายที่โดดเด่นในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป และนับเป็นครั้งแรกที่ยอดขายในต่างประเทศแซงหน้ายอดขายในญี่ปุ่น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับภาคหลักของซีรีส์นี้มาก่อน
เกมภาคนี้เปิดตัวมาแล้วประมาณ 3 เดือน และแม้จะไม่ใช่เกมภาคหลัก แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้เล่นทั่วโลก รวมถึงข้อมูลผู้เล่นพร้อมกันหลังเปิดตัวและรายงานทางการเงินของ SEGA ที่สะท้อนว่าเกมทำผลงานได้ดีพอสมควร ล่าสุด Yokoyama ได้ให้สัมภาษณ์กับ Denfaminicogamer โดยอธิบายว่า “เกมภาคนี้ขายดีเป็นพิเศษในยุโรป โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร” และกล่าวเสริมว่า “ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอิทธิพลของวัฒนธรรมโจรสลัดหรือเปล่า แต่ยอดขายในสหราชอาณาจักรโดดเด่นมาก”
Yokoyama ยอมรับว่าเดิมทีทีมงานไม่ได้ตั้งใจจะสร้างเกมแนวโจรสลัดเต็มตัว แต่เป็นเพียงการเล่าเรื่องภาคแยกของ Yakuza ในฉากหลังแบบฮาวายที่มีกลิ่นอายของโจรสลัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แฟนเกมจำนวนมากกลับชื่นชอบในธีมดังกล่าวและมองว่าเกมนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวของแนวผจญภัยโจรสลัด
ก่อนหน้านี้ ซีรีส์ Like a Dragon มียอดขายที่แข็งแกร่งในญี่ปุ่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Like a Dragon: Infinite Wealth ซึ่งทำสถิติเป็นภาคที่ขายเร็วที่สุดในแฟรนไชส์ หรือ Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name ที่มียอดขายภายในประเทศ “น่าประทับใจ” ตามคำบรรยายของทีมพัฒนา
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในภาค Pirate Yakuza in Hawaii ทำให้ RGG Studio ได้เรียนรู้ว่าการทดลองแนวทางใหม่ ๆ สามารถเปิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจและสร้างกลุ่มผู้เล่นใหม่ได้ โดย Yokoyama ระบุว่า “ในแง่นี้ เกมนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าจะส่งผลต่อทิศทางของโปรเจกต์ในอนาคตของเรา”
แม้จะไม่ได้กลายเป็นเกมระดับบล็อกบัสเตอร์ทั่วโลก แต่ Yokoyama ก็ยืนยันว่า Pirate Yakuza in Hawaii คือ “ความสำเร็จครั้งสำคัญ” ที่ขยายขอบเขตความเป็นไปได้ของทีมพัฒนาได้อย่างชัดเจน
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net