งานวิจัยของ UCLA Health พบว่า เครื่องพ่นยาในสหรัฐอเมริกามีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 2 ล้านเมตริกตันต่อปีตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดมูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมราว 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 187,000 ล้านบาท
รายงานฉบับนี้ ซึ่งเป็นการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของเครื่องพ่นยาในสหรัฐฯ ถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ JAMA โดยระบุว่า เครื่องพ่นยามีส่วนในการปล่อยคาร์บอนมากกว่า 2 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่าการปล่อยจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันกว่า 530,000 คันต่อปี ถือเป็นการวิเคราะห์ผลกระทบจากเครื่องพ่นยาที่ครอบคลุมที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสหรัฐฯ
งานวิจัยดังกล่าวครอบคลุมการประเมินการปล่อยก๊าซจากเครื่องพ่นยาที่ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาโรคหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ระหว่างปี 2014 ถึง 2024 โดยพบว่า เครื่องพ่นยาประเภท Metered Dose Inhaler (MDI) เป็นกลุ่มที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด คิดเป็นถึง 98% ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด เนื่องจากใช้สารขับเคลื่อน (Propellant) ที่เรียกว่า Hydrofluoroalkane (HFA) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพสูงมาก
ภายในกลุ่มเดียวกัน เครื่องพ่นยาที่ใช้สารออกฤทธิ์อย่าง Albuterol, Budesonide-Formoterol และ Fluticasone Propionate เป็นสาเหตุของการปล่อยคาร์บอนรวมถึง 87% ในขณะที่เครื่องพ่นยาประเภทอื่น เช่น แบบผงแห้ง (Dry Powder Inhaler) และแบบละอองนุ่ม (Soft Mist Inhaler) สามารถส่งยาสู่ปอดได้โดยไม่ต้องใช้สารขับเคลื่อน HFA ทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
ตลอดช่วงเวลา 10 ปีนั้น เครื่องพ่นยาจำนวนประมาณ 1.6 พันล้านชิ้นได้สร้างการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2e) รวมทั้งสิ้น 24.9 ล้านเมตริกตัน ซึ่งสร้างมูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์ และยังพบว่าการปล่อยก๊าซในแต่ละปีเพิ่มขึ้นถึง 24% ระหว่างปี 2014 ถึง 2024
ดร.วิลเลียม เฟลด์แมน (William Feldman) นักวิจัยจาก UCLA และหัวหน้าทีมผู้เขียนรายงาน ระบุว่า “เครื่องพ่นยาได้เพิ่ม Carbon Footprint ให้กับระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ แต่ในอีกด้านหนึ่ง นี่คือโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลง เพื่อปกป้องทั้งผู้ป่วยและโลก ด้วยการหันมาใช้เครื่องพ่นยาทางเลือกที่ปล่อยก๊าซน้อยกว่า”
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X
