Honda ประกาศลดแผนการลงทุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจาก 10 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท) เหลือ 7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.75 ล้านล้านบาท) พร้อมชะลอเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่า EV จะคิดเป็น 30% ของยอดขายรถทั่วโลกภายในปี 2030 โดยให้เหตุผลว่า “ตลาด EV โตช้ากว่าที่คาด” จากหลายปัจจัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม สื่อ Electrek ได้วิจารณ์ว่าการอ้างถึง “การชะลอตัวของตลาด EV” นั้นไม่สอดคล้องกับความจริง เพราะยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 เติบโตสูงกว่าปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใช้น้ำมันแตะจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2017 และลดลงเรื่อย ๆ นับแต่นั้นมา
Honda ยังประกาศว่าจะเน้นการผลิตรถยนต์ไฮบริด (HEV) มากขึ้นตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป ซึ่งแม้จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน แต่ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดยังคงใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก เนื่องจาก HEV ไม่สามารถชาร์จไฟจากภายนอกได้ และต้องอาศัยการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากการเบรกหรือการทำงานของเครื่องยนต์เท่านั้น
แม้ Honda เคยประกาศวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 แต่การเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าแผนดังกล่าวอาจเป็นเพียงการตลาดสีเขียว (greenwashing) มากกว่าความตั้งใจจริง
Electrek ชี้ว่าเป้าหมาย EV ที่ 30% ภายในปี 2030 ของ Honda นั้นต่ำกว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ที่มีเป้า EV ที่ 50% ภายในปี 2030 และแคลิฟอร์เนียตั้งเป้าถึง 68% ขณะที่จีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดก็มีการนำเข้ากฎระเบียบใหม่หลายปีแล้ว ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์น้ำมันในจีนลดลงอย่างมาก
ผลกระทบของกลยุทธ์นี้เริ่มเห็นชัดเจนจากผลประกอบการ Honda ที่ลดลง โดยรายงานไตรมาสล่าสุดระบุว่ากำไรลดลงถึง 24.5% สาเหตุหลักมาจากยอดขายในจีนที่ตกฮวบ เพราะแข่งขันกับผู้ผลิต EV ท้องถิ่นไม่ได้ ทั้งที่ Honda เองก็มีรถ EV อย่าง Prologue ที่เพิ่งเปิดตัวในสหรัฐฯ และกลายเป็นหนึ่งในรถ EV ที่ขายดีที่สุดในประเทศ
บทวิเคราะห์ของ Electrek ระบุว่า การที่ Honda ชะลอแผน EV แทนที่จะเร่งตามให้ทันตลาดโลก เป็นการ “เดินสวนทางกับทิศทางของอุตสาหกรรม” ซึ่งอาจทำให้บริษัทเสี่ยงเสียส่วนแบ่งตลาดในอนาคต และกระทบเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวม ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานสะอาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
