ในปี 2020 ท่ามกลางวิกฤตโควิด Guillaume Broche พนักงาน Ubisoft จากฝรั่งเศส กำลังรู้สึกเบื่อหน่ายในงานและอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ด้วยความหลงใหลในเกม Final Fantasy จากวัยเด็ก ทำให้เขาเริ่มต้นโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่กลายมาเป็น “Clair Obscur: Expedition 33” เกม RPG แนวเทิร์นเบสสุดสร้างสรรค์ที่ขายได้กว่า 1 ล้านชุดภายใน 3 วัน และได้รับคำชมจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ว่าเป็น “ตัวอย่างความกล้าหาญและความสร้างสรรค์ของฝรั่งเศส”
Clair Obscur: Expedition 33 ดำเนินเรื่องในโลกแฟนตาซีที่ชื่อ Lumiere ซึ่งถูกควบคุมโดยสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ชื่อ The Paintress ที่จะปรากฏตัวขึ้นทุกปีและทำให้คนที่มีอายุตรงกับตัวเลขบนหินศักดิ์สิทธิ์หายไป ตัวเกมเน้นเนื้อเรื่องเข้มข้น ระบบต่อสู้แบบ RPG คลาสสิก และงานศิลป์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศสยุคศตวรรษที่ 19
Guillaume เริ่มโปรเจกต์นี้ด้วยการโพสต์หาคนร่วมทีมบน Reddit และฟอรั่มต่าง ๆ โดยหนึ่งในผู้ให้ความสนใจก็คือ Jennifer Svedberg-Yen ที่ในตอนนั้นอยู่ระหว่างล็อกดาวน์ในออสเตรเลีย เธอลองส่งเสียงพากย์เพื่อออดิชั่น และสุดท้ายได้กลายเป็นหัวหน้าทีมเขียนบทของเกม
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ Lorien Testard คอมโพสเซอร์ที่ไม่เคยทำงานในวงการเกมมาก่อน แต่ถูกค้นพบผ่านโพสต์บน Soundcloud และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพลงประกอบที่ขึ้นแท่นชาร์ต Spotify
แม้ทีมหลักจะมีเพียง 30 คน แต่ด้วยเครื่องมือพัฒนาเกมยุคใหม่และการสนับสนุนจาก Kepler Interactive ทีม Sandfall Interactive ก็สามารถดึงนักแสดงระดับฮอลลีวูด เช่น Charlie Cox, Andy Serkis รวมถึงนักพากย์เกมดังอย่าง Jennifer English และ Ben Starr มาร่วมงานได้
Guillaume เผยว่าแม้ทีมส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ทุกคนเต็มไปด้วยแพสชั่นและความสามารถ เขายังเน้นว่าสิ่งที่ทำให้เกมประสบความสำเร็จคือการสื่อสารที่ชัดเจน การหาคนที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน และความโชคดีที่เกิดจากความกล้าเริ่มต้น
Clair Obscur: Expedition 33 จึงไม่ใช่แค่เกม แต่คือบทพิสูจน์ว่าความฝันและความกล้า สามารถเปลี่ยนไอเดียเล็ก ๆ ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกได้จริง
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
