Cho Yonghee ผู้กำกับเกม Pragmata และ Naoto Oyama กับ Edvin Edso โปรดิวเซอร์ ร่วมให้สัมภาษณ์กับ AUTOMATON Japan ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจให้ Pragmata เป็นเกมเล่นคนเดียวเท่านั้น แม้ตัวเกมจะมีระบบที่ดูเหมาะกับการเล่นแบบร่วมมือกันก็ตาม
Pragmata เป็นเกมไซไฟแอ็กชันผจญภัย มุมมองบุคคลที่สาม ที่ผสมผสานระหว่างการยิงต่อสู้และการแก้ปริศนา โดยมีตัวละครหลักสองคนคือ Hugh และ Diana ซึ่งตามแนวคิดนี้ดูเหมือนจะเปิดทางให้ใช้ระบบ Co-Oop เล่นสองคนได้ แต่ทีมพัฒนากลับเลือกแนวทางที่ต่างออกไป
“เราพิจารณาไอเดียการเล่นสองคนอยู่เหมือนกันครับ แต่เป้าหมายหลักของเราคือการมอบประสบการณ์การเล่นรูปแบบใหม่ให้กับผู้เล่น เราจึงมุ่งเน้นไปที่ความ ‘วุ่นวาย’ และความสนุกจากการที่ผู้เล่นคนเดียวต้องจัดการทั้งการต่อสู้และการแก้ปริศนาไปพร้อมกัน” Oyama อธิบาย

หากแบ่งบทบาทการต่อสู้กับการแฮกให้ผู้เล่นสองคน ทีมงานเชื่อว่าจะทำให้เสน่ห์ของการสลับเล่นระหว่าง Hugh และ Diana ลดลง เพราะตัวเกมออกแบบมาให้ผู้เล่นต้องประสานการทำงานของทั้งสองตัวละครด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เช่น Diana สามารถแฮกประตูเปิดเส้นทางให้ Hugh ใช้เจ็ตพุ่งผ่านไป หรือถ้าพื้นที่ใหญ่เกินไปจนหลงทาง Diana จะสามารถสแกนพื้นที่แล้วชี้ทางให้ได้
Oyama เสริมว่า “การสำรวจในเกมไม่ได้มีแค่การต่อสู้อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่าง Hugh กับ Diana ซึ่งเป็นแก่นหลักของเกมนี้ และผู้เล่นจะต้องควบคุมมันด้วยตัวเองทั้งหมด”
ด้านระดับความยาก Capcom ระบุว่า Pragmata ถูกออกแบบมาให้ท้าทายสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ แต่ก็จะไม่ทิ้งผู้เล่นสายแคชชวล โดยเกมจะค่อย ๆ เพิ่มระดับความยากตามการเรียนรู้ระบบยิง TPS และการแฮกของผู้เล่น และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดการบาลานซ์เพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงวันวางจำหน่าย

Pragmata มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 บน PC (Steam), PS5 และ Xbox Series X|S
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X