Hideki Kamiya ผู้อยู่เบื้องหลังเกมดังอย่าง Devil May Cry, Bayonetta และ Okami ออกมาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Famitsu พร้อมกับ Felix Schade ผู้สร้างเกมอินดี้ Morbid Metal โดยได้พูดคุยกันถึงพัฒนาการของเกมแอ็กชัน 3D ตลอดจนแนวคิดในการออกแบบเกมในมุมมองของนักพัฒนา
Kamiya กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเกมของเขาว่า “เมื่อผมสร้างเกมใหม่ ผมจะพยายามคิดระบบการเล่นที่ไม่เหมือนใคร และสามารถสัมผัสได้แค่ในเกมนั้นเท่านั้น อย่างใน Bayonetta เราก็มีระบบ Witch Time ที่ทำให้เวลาช้าลงเมื่อหลบการโจมตีได้พอดี หรืออย่างใน Okami ก็มีระบบ Celestial Brush ที่ให้ผู้เล่นวาดลงบนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในโลกของเกม”
เมื่อ Schade กล่าวว่าทุกวันนี้มีเกมน้อยลงที่นำเสนอไอเดียใหม่ ๆ แบบนี้ Kamiya ก็ยอมรับว่าเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับเกมที่มีแค่กราฟิกสวยอย่างเดียว “ในฐานะผู้เล่น ผมอยากรู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากเกมอื่น ประสบการณ์ที่เป็นของเกมนั้นเพียงเกมเดียว”

แม้จะพูดแบบนั้น Kamiya ก็ยังชื่นชมวงการเกมแอ็กชัน 3D ว่าเติบโตขึ้นมาก “เมื่อก่อน เกมแอ็กชันแบบ 3D ยังมีไม่เยอะ แต่พักหลังเราจะเห็นเกมแนวนี้ที่ดูเท่และมีระบบคอมโบซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการของตลาด และในฐานะคนที่อยากสร้างเกมแนวนี้อีกครั้ง มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจ”
ด้วยประสบการณ์ที่สะสมจากการทำงานที่ Capcom และ PlatinumGames มาหลายปี Kamiya ยอมรับว่าเขารู้สึกทึ่งกับความสามารถของทีมพัฒนาในยุคปัจจุบัน ที่สามารถปล่อยเกมคุณภาพสูงออกมาได้ แม้จะเป็นสตูดิโอเล็กหรือเป็นโปรเจกต์ของนักพัฒนารายบุคคล เช่น Morbid Metal, Stellar Blade หรือ Lost Soul Aside “ผมยังรู้สึกมหัศจรรย์อยู่เลยที่มีคนสามารถเริ่มทำเกม แล้วจบด้วยผลงานคุณภาพขนาดนั้นได้”
ปัจจุบัน Hideki Kamiya กำลังพัฒนาเกมภาคต่อของ Okami ในฐานะหัวหน้าสตูดิโอ CLOVERS
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X



