Ubisoft บริษัทผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากฝรั่งเศส เจ้าของแฟรนไชส์ Assassin’s Creed รายงานผลประกอบการสิ้นสุดปีงบประมาณ 31 มีนาคม 2025 โดยมีรายได้รวมจากเกมและบริการดิจิทัลลดลง 20.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลงกว่า 18.32% ปิดที่ 9.55 ยูโร (ประมาณ 362 บาท)
แม้เกม Assassin’s Creed: Shadows ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมหลังจากถูกเลื่อนมาสองครั้ง จะสร้างกระแสตอบรับที่ดี แต่กลับไม่สามารถพายอดขายรวมของบริษัทให้เติบโตขึ้นได้
Ubisoft ระบุว่าสาเหตุหลักมาจาก “ความร่วมมือทางธุรกิจที่ไม่เป็นไปตามเป้า” โดยรายได้รวมจากเกมและบริการดิจิทัลทั้งปีอยู่ที่ 1.85 พันล้านยูโร (ประมาณ 70,300 ล้านบาท) ขณะที่บริษัทขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 15.1 ล้านยูโร (ประมาณ 574 ล้านบาท)
ในแง่ของแนวโน้มปีงบประมาณ 2025–2026 Ubisoft คาดว่าได้รวมจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ในระดับคุ้มทุนตามเกณฑ์ Non-IFRS
ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Ubisoft ลดลงเกือบ 60% จากปัญหาทางการเงิน กระบวนการพัฒนาเกมที่ล่าช้า และยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าของเกมหลักหลายรายการ
นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Ubisoft ยังประกาศแผนจัดตั้งบริษัทย่อยด้านเกมร่วมกับ Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน โดย Tencent จะเข้าลงทุน 1.16 พันล้านยูโร (ประมาณ 44,000 ล้านบาท) เพื่อถือหุ้น 25% ของบริษัทย่อย ซึ่งจะดูแลแฟรนไชส์สำคัญอย่าง Assassin’s Creed, Far Cry และ Rainbow Six ขณะที่ Ubisoft ยังคงถือหุ้นใหญ่และจะได้รับค่าลิขสิทธิ์จากยอดขายเกมในกลุ่มนี้ Ubisoft คาดว่าดีลดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2025
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net