Apple ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชุดใหญ่ในงาน “Awe dropping” ซึ่งประกอบด้วย iPhone 17 Series, Apple Watch รุ่นใหม่ 3 รุ่น, AirPods Pro 3 และเผยวันปล่อยระบบปฏิบัติการ iOS 26, iPadOS 26, watchOS 26 และ macOS Tahoe 26 โดยไฮไลต์สำคัญในปีนี้คือการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของ iPhone และการอัปเกรดเทคโนโลยีภายในอย่างเต็มรูปแบบ
iPhone 17 Series: ดีไซน์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยีระดับโปร
Apple เปิดตัว iPhone 17, iPhone 17 Pro, iPhone 17 Pro Max และรุ่นใหม่ล่าสุด iPhone Air โดยปีนี้มีการเปลี่ยนดีไซน์ด้านหลังของรุ่น Pro และ Air เป็น “full-width camera plateau” แถบกล้องแบบยาวเต็มความกว้างด้านหลัง



จุดเด่นและสเปกของแต่ละรุ่น:
- iPhone 17: ได้รับจอ ProMotion 120Hz เป็นครั้งแรก มาพร้อมกล้อง Fusion คู่ 48MP
- ราคา 256GB — 29,900 บาท, ราคา 512GB — 37,900 บาท
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.3”
- เทคโนโลยี ProMotion
- Always-On Display
- Dynamic Island
- กล้อง Fusion คู่ 48MP
- ถ่ายภาพความละเอียดสูง 24MP และ 48MP
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 48MP
- ถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชันใหม่ พร้อมโฟกัสและระยะชัดลึก
- ถ่ายภาพมาโครได้
- วิดีโอ 4K Dolby Vision สูงสุด 60fps
- ซูมออปติคัล 0.5x / 1x / 2x
- แบตเตอรี่ใช้งานวิดีโอนานสูงสุด 30 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C รองรับ USB 2
- ชิป A19 พร้อม GPU แบบ 5-core และเรย์เทรซซิ่งแบบฮาร์ดแวร์
- กล้องหน้า 18MP พร้อม Center Stage
- รองรับ SOS ฉุกเฉิน และตรวจจับการชนกัน
- รองรับ Apple Intelligence เต็มรูปแบบ
- มีให้เลือก 5 สี ลาเวนเดอร์, เขียวเสจ, ฟ้าหมอก, ขาว และดำ
- iPhone Air: บางที่สุดที่เคยมีมาเพียง 5.6 มม., หนัก 165 กรัม, จอ ProMotion 6.5 นิ้ว รีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 3,000 nits, โครงสร้างไทเทเนียมหุ้มด้วย Ceramic Shield
- ราคา 256GB — 39,900 บาท, ราคา 512GB — 47,900 บาท, ราคา 1TB — 55,900 บาท
- หน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5”
- เทคโนโลยี ProMotion
- Always-On Display
- Dynamic Island
- กล้อง Fusion 48MP
- ถ่ายภาพความละเอียดสูง 24MP และ 48MP
- ถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชันใหม่ พร้อมโฟกัสและระยะชัดลึก
- วิดีโอ 4K Dolby Vision สูงสุด 60fps
- ซูมออปติคัล 1x / 2x
- แบตเตอรี่ใช้งานวิดีโอนานสูงสุด 27 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C รองรับ USB 2
- ชิป A19 Pro พร้อม GPU แบบ 5-core และเรย์เทรซซิ่งแบบฮาร์ดแวร์
- กล้องหน้า 18MP พร้อม Center Stage
- รองรับ SOS ฉุกเฉิน และตรวจจับการชนกัน
- รองรับ Apple Intelligence เต็มรูปแบบ
- มีให้เลือก 4 สีสกายบลู, ทองอ่อน, ขาวปุยเมฆ และดำสเปซแบล็ค
- iPhone 17 Pro / Pro Max: เปลี่ยนไปใช้ตัวเครื่องอะลูมิเนียมอีกครั้ง, แบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา, แถบกล้องยาวเต็มความกว้างด้านหลัง มาพร้อมชิป A19 Pro
- จอ 6.3 นิ้ว ราคา 256GB — 43,900 บาท, ราคา 512GB — 51,900 บาท, ราคา 1TB — 59,900 บาท
- จอ 6.9 นิ้ว ราคา 256GB — 48,900 บาท, ราคา 512GB — 56,900 บาท, ราคา 1TB — 64,900 บาท, ราคา 2TB — 80,900 บาท
- หน้าจอ Super Retina XDR
- เทคโนโลยี ProMotion
- Always-On Display
- Dynamic Island
- ระบบกล้อง Fusion โปร 48MP
- กล้องหลัก 48MP | อัลตร้าไวด์ 48MP | เทเลโฟโต้ 48MP
- ถ่ายภาพความละเอียดสูง 24MP และ 48MP
- ภาพถ่ายบุคคลเจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมควบคุมโฟกัสและระยะชัดลึก
- ถ่ายภาพมาโครได้
- วิดีโอ 4K Dolby Vision สูงสุด 120fps
- ซูมออปติคัล: 0.5x / 1x / 2x / 4x / 8x
- แบตเตอรี่ใช้งานวิดีโอต่อเนื่องสูงสุด 39 ชั่วโมง
- พอร์ต USB-C รองรับ USB 3 ถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่า
- ชิป A19 Pro พร้อม GPU แบบ 6-core และเรย์เทรซซิ่งแบบฮาร์ดแวร์
- กล้องหน้า 18MP พร้อม Center Stage
- รองรับ SOS ฉุกเฉิน และตรวจจับการชนกัน
- รองรับ Apple Intelligence เต็มรูปแบบ
- มีให้เลือก 3 สี เงิน, ส้มคอสมิก และน้ำเงินเข้ม
- กล้องหน้าทุกรุ่น: ใช้เซ็นเซอร์ใหม่แบบอัตราส่วนจัตุรัส (square sensor) รองรับ Center Stage และปรับเฟรมอัตโนมัติได้หลายรูปแบบ (4:3, 16:9, 1:1) ความละเอียดสูงสุด 18MP
Apple Watch รุ่นใหม่: เชื่อมต่อเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น
Apple เปิดตัว Apple Watch รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ Series 11, SE 3 และ Ultra 3 โดยมีจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อ 5G, อายุแบตเตอรี่ยาวขึ้น และความสามารถใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น



Apple Watch Ultra 3
จุดเด่นของแต่ละรุ่น:
- Apple Watch Series 11: บางที่สุดที่เคยมี, รองรับ 5G, กระจกแข็งแรงขึ้น, รองรับ Live Translation
- รุ่น 42 มม. ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท, รุ่น 46 มม. ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท (Cellular +4,000 บาท)
- Apple Watch SE 3: ใช้ชิป S10, จอ Always-on, อายุแบต 18 ชม., รองรับ 5G, รองรับฟีเจอร์สุขภาพใหม่ เช่น ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ, ทำนายการตกไข่ย้อนหลัง
- รุ่น 40 มม. ราคาเริ่มต้นที่ 8,500 บาท, รุ่น 44 มม. ราคาเริ่มต้นที่ 9,500 บาท (Cellular +2,000 บาท)
- Apple Watch Ultra 3: รองรับ 5G และดาวเทียม, แบตใช้งานได้ยาวนานถึง 42 ชั่วโมง, หน้าจอกว้างขึ้น, ตรวจจับความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
- ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท (สายแบบ Milanese Loop ไทเทเนียม +4,000 บาท)
AirPods Pro 3: ANC ที่ดีที่สุดในโลก พร้อมเซ็นเซอร์วัดหัวใจ

- รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- ปรับปรุง Active Noise Cancellation ด้วยฟองน้ำชนิดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนเป็นสองเท่า
- เพิ่มคุณสมบัติ Live Translation
- ราคา 8,490 บาท
iOS 26 และระบบปฏิบัติการใหม่
Apple ประกาศปล่อยอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่หลายแพลตฟอร์มในวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยทุกระบบจะใช้ดีไซน์ใหม่ชื่อว่า Liquid Glass ที่ให้ความโปร่งใส และแสดงผลส่วนพื้นหลังให้เห็นผ่านส่วนต่าง ๆ ของอินเทอร์เฟซ
รายละเอียดระบบปฏิบัติการ:
- iOS 26: ใช้ Liquid Glass UI, เพิ่มความปลอดภัยด้านหน่วยความจำด้วย Memory Integrity Enforcement (MIE)
- iPadOS 26: รองรับการย่อ-ขยายหน้าต่าง, ย้ายตำแหน่งได้เหมือน macOS
- watchOS 26: เพิ่ม gesture “สะบัดข้อมือ” เพื่อปิดสายหรือแจ้งเตือน, ปรับระดับเสียงตามสภาพเสียงรอบข้าง
- macOS Tahoe 26: รองรับ Mac รุ่นที่ใช้ Intel เป็นครั้งสุดท้าย
ชิปใหม่ N1: พัฒนาโดย Apple เอง

Apple เปิดตัว ชิป N1 สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย โดยรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่าง AirDrop และ Personal Hotspot โดยจะใช้ใน iPhone 17 Series ทุกรุ่น
สรุปกำหนดการวางจำหน่ายในไทย
- iPhone 17 Series: สั่งซื้อล่วงหน้า 12 กันยายน เริ่มตั้งแต่เวลา 19:00 น. / วางจำหน่าย 19 กันยายน 2025
- Apple Watch รุ่นใหม่: ยังไม่ระบุ / รอติดตามอีกครั้ง
- AirPods Pro 3: ยังไม่ระบุ / รอติดตามอีกครั้ง
- ระบบปฏิบัติการทั้งหมด: เปิดให้อัปเดตวันที่ 15 กันยายนนี้
ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net
พร้อมช่องทางโซเชียล Facebook | Instagram | TikTok | YouTube | X