The Game Kitchen ทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้จากสเปน ประกาศวางจำหน่ายเกม Ninja Gaiden: Ragebound ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ พร้อมเผยเบื้องหลังการออกแบบศิลป์ที่ผสมผสานความคลาสสิกจากยุค 8-bit เข้ากับจินตนาการใหม่ของทีมงาน
เมื่อ Dotemu ติดต่อให้ The Game Kitchen สร้างภาคใหม่ของซีรีส์ Ninja Gaiden เวอร์ชัน 2D ทีมงานเลือกใช้พิกเซลอาร์ตเพื่อรักษาเอกลักษณ์เดิมของไตรภาคยุค NES พร้อมใส่สไตล์ของตัวเองเข้าไป อย่างไรก็ตาม ด้วยความยืดหยุ่นของพิกเซลอาร์ตที่ตีความได้หลากหลาย ทีมจึงต้องหาทิศทางใหม่ที่แตกต่างจากผลงานก่อนหน้า เช่น Blasphemous หรือ The Last Door
แนวคิดสำคัญที่ใช้เป็นฐานคือ “ถ้า Ninja Gaiden พัฒนาต่อในยุค 90 แบบ 2D ต่อไป จะเป็นอย่างไร?” คำตอบคือกราฟิกพิกเซลคุณภาพสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 16-32 บิต ผสมกับดีไซน์ตัวละครที่โดดเด่นแบบอนิเมะ Seinen ยุค 90
Jesús “Nerkin” Campos ศิลปินพิกเซลมือฉมังของ Blasphemous รับหน้าที่อาร์ตไดเร็คเตอร์ใน Ragebound โดยเขาเน้นให้ภาพดูมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยพลังของแอ็กชัน พร้อมยกระดับพิกเซลอาร์ตไปอีกขั้นเพื่อให้ทันยุคสมัย
Jesús ระบุว่า ความท้าทายคือการจำกัดสีและรายละเอียดจากความละเอียดภาพต่ำ ทีมจึงต้องออกแบบพาเล็ตสีอย่างแม่นยำ วางลวดลายพื้นผิวให้ซ้ำซ้อนอย่างลงตัว และใส่เอฟเฟกต์ Parallax เพื่อเพิ่มมิติให้ฉาก
อีกจุดสำคัญคือความชัดเจนในการเล่น ด้วยความที่เป็นเกมแอ็กชัน ฉากหลังต้องไม่แย่งความสนใจจากตัวละคร ศัตรู หรือองค์ประกอบสำคัญของแผนที่อย่างพื้น เพดาน และทางเดิน ทีมต้องจัดวางทุกอย่างให้ผู้เล่นมองเห็นเป้าหมายได้ทันที รวมถึงใส่แอนิเมชันและรายละเอียดตกแต่งเพื่อให้โลกในเกมรู้สึกมีชีวิต
ในด้านการออกแบบตัวละคร María “Maiku” Lozano นักวาดปกนิตยสารเกมจากสเปน และนักออกแบบคอนเซปต์เกมอินดี้หลายเรื่อง รับหน้าที่พัฒนาคาแรกเตอร์ของทั้งตัวละครหลัก ศัตรู และบอส
María เน้นการออกแบบซิลูเอตให้จดจำง่าย เพราะรายละเอียดเล็ก ๆ ในพิกเซลอาร์ตอาจหายไปได้ง่าย เธอใช้การทดลองซ้ำ ๆ ทั้งในทรงผม เสื้อผ้า และโทนสีจนได้ตัวละครที่ตรงอารมณ์

ตัวเอก Kenji และ Kumori ถูกออกแบบให้ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง Kenji มาในชุดหลวม ๆ สีสว่าง ผมพลิ้วไหว แสดงถึงพลังและความมุ่งมั่น ส่วน Kumori ใช้ชุดเข้ารูป มีเหลี่ยมคม สีเย็น และผมตรงเป๊ะ แสดงถึงความแม่นยำและเยือกเย็น แม้แต่ผ้าพันคอที่ปลิวของ Kenji ก็ช่วยขับให้เขาดูอบอุ่น ในขณะที่ Kumori ดูควบคุมทุกอย่างได้อย่างไร้ที่ติ
ในส่วนของศัตรู María ใช้แรงบันดาลใจจากตำนาน ธรรมชาติ และศิลปะเพื่อสร้างดีไซน์ที่สื่ออารมณ์และมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เธอเชื่อว่าศัตรูทุกตัวควรสื่อถึงอะไรบางอย่างในโลกของเกม และถึงแม้จะใช้ต้นแบบจากวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่เธอเลือกจะตีความใหม่เสมอเพื่อให้ผลงานสดใหม่
สำหรับทีม The Game Kitchen การชุบชีวิต Ninja Gaiden ให้กลับมาอีกครั้ง ถือเป็นทั้งเกียรติและความท้าทาย พวกเขาหวังว่าทั้งแฟนใหม่และแฟนดั้งเดิมจะสนุกไปกับภาคนี้ที่ยังคงรากเหง้าเดิมไว้ พร้อมต่อยอดสู่ระดับใหม่ด้วยคุณภาพงานศิลป์ที่พัฒนาไปอีกขั้น

ติดตามข่าวสารอัปเดตวงการเทคโนโลยี เกม และไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่ techcatchup.net